Bond Yield หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล เป็นผลตอบแทนที่นักลงทุนคาดหวังจากการถือครองพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งผู้ลงทุนจะได้ผลตอบแทนในรูปของ “ดอกเบี้ย” จากการถือพันธบัตรนั้นๆ เปรียบเหมือนเราเอาเงินไปฝากธนาคาร เมื่อถือครบ 1 ปี เราก็จะได้ดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากตามที่ธนาคารกำหนด
ทำไมนักลงทุนถึงสนใจลงทุนใน Bond Yield ?
เพราะ Bond หรือพันธบัตร เป็นตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำ และมีการกำหนดว่า ในการลงทุนในพันธบัตรนั้นๆ จะได้รับดอกเบี้ยเท่าไหร่ต่อปี เช่น 2% ต่อปี และมีระยะเวลาลงทุนเท่าไหร่ เช่น 1 ปี 5 ปี และ 10 ปี โดยที่ถ้าเป็นพันธบัตรระยะสั้นจะได้ผลตอบแทนต่ำ และหากเป็นพันธบัตรระยะยาว ก็จะได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น คล้ายๆ กับกรณีของการฝากประจำไว้กับธนาคาร ที่ผลตอบแทนจากเงินฝากประจำระยะสั้นจะน้อยกว่าเงินฝากประจำระยะยาว
Bond Yield ที่นักลงทุนทั่วโลกสนใจและจับตามอง ?
สำหรับ Bond Yield ที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจและจับตามองคือ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี (10-year Treasury Yield)
ทำไมนักลงทุนถึงสนใจพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ?
โดยความเป็นจริงแล้วผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ไม่ได้มีความสำคัญกว่าผลตอบแทนของพันธบัตรอายุอื่นมากนัก แต่เมื่อเอาไปประกอบกับข้อมูลอื่นกลับกลายเป็นเครื่องชี้นำเศรษฐกิจที่มีความแม่นยำทางสถิติสูงในสองมิติ
ถ้าผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น/ลดลง ส่งผลอะไรบ้าง ?
หากผลตอบแทนในตลาดพันธบัตรเพิ่มขึ้นสูง จะส่งผลให้ Earning Yield Gap ปรับตัวลง หมายถึง การลงทุนในตลาดหุ้นจะน่าสนใจลดลง เพราะนักลงทุนสามารถถือพันธบัตร (ที่ความเสี่ยงต่ำกว่า) แต่ได้อัตราผลตอบแทนพอๆ กับการลงทุนในตลาดหุ้น

นักวิเคราะห์ชี้ โครงสร้างราคาของ Bitcoin กำลังเหมือนกราฟเมื่อปี 2020 และอาจพุ่งทำจุด ATH ภายในปีนี้
CrediBULL Crypto ได้ออกมาแชร์มุมมองของเค้า โดยเค้ากล่าวว่าการเคลื่อนไหวของราคาในปี 2023 ชวนให้นึกถึงกราฟราคา Bitcoin เมื่อเดือนมีนาคมถึงสิงหาคม 2020 โดยราคา BTC เพิ่มขึ้นประมาณ 200%