- เมื่อวันก่อนราคาทองปรับตัวลง 9.34 ดอลลาร์ รับตัวเลข PMI บริการสหรัฐที่ออกมาดี บวกกับสกุลเงินดอลลาร์ฟื้นตัว
- วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐได้แก่ การจ้างงานภาคเอกชน เดือนพ.ย. จาก ADP คาดการณ์ว่าออกมามากกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลเสียต่อราคาทองคำ
- วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐได้แก่ ดุลการค้า เดือนต.ค. คาดการณ์ว่าออกมาน้อยกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีต่อราคาทองคำ
- วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญยุโรปได้แก่ ยอดค้าปลีก เดือนต.ค. คาดการณ์ว่าออกมามากกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีต่อราคาทองคำ
- กองทุนทองคํา SPDR ล่าสุดขายออก 0.29 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 880.83 ตัน
ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำอยู่ในช่วง Sideways
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่2 ในวันอังคาร เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ เมื่อประเมินแนวโน้มตลาดแรงงานและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- BlackRock กล่าวว่า”นักลงทุนกำลังคาดหวังกับการลดดอกเบี้ยของFED ในปีหน้ามากเกินไป
- FedWatch Tool ของCME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก5% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค.2566 และให้น้ำหนัก 83.8% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนม.ค.2567
- ราคาทองคำเมื่อวานก่อนเปิดที่ 2029 ดอลลาร์ โดยที่ราคาทองลงไประดับต่ำสุดที่ราคา 2009 ดอลลาร์ ก่อนราคาจะพุ่งขึ้นมาปิดที่ราคา 2019 ดอลลาร์
มุมมองทองคำทาง Technical
เมื่อวันก่อนราคาทองคำปิดลบ 9.34 ดอลลาร์ รับตัวเลข PMI บริการสหรัฐที่ออกมาดี บวกกับสกุลเงินดอลลาร์ฟื้นตัว (-) ทั้งนี้หากราคาทองคำไม่สามารถปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 2,041 – 2,058 ได้ นักเทรดสามารถพิจารณาเปิด Sell เพื่อทำกำไรระยะในระยะสั้นและตัดขาดทุนที่ระดับ 2,058 เหรียญ (-) ขณะที่ภาพรวมทองคำตอนนี้มองไปทิศทาง Sideways โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะวิ่งอยู่ในกรอบแนวรับที่ 2,010 ดอลลาร์ และ 2,000 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านที่ 2,040 ดอลลาร์ และ 2,050 ดอลลาร์
Technical View
แนวรับที่ 1 2010 แนวต้านที่ 1 2040
แนวรับที่ 2 2000 แนวต้านที่ 2 2050
หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน ผู้ลงทุนไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจออกคำสั่งซื้อขาย และควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
