logo

ข่าวเศรษฐกิจรอบโลกประจำวันที่ 24 มกราคม 2567

  • Martinez ได้ออกมาคาดการณ์ว่า ราคา Bitcoin อาจมีการปรับฐานที่จะส่งผลให้ราคาเหรียญร่วงไปได้ถึง 32,700 ดอลลาร์ ซึ่งตำแหน่งดังกล่าวสอดคล้องกับรูปแบบ Fibonacci retracement ที่ 50% พอดี
  • นักวิเคราะห์เผย ราคา Bitcoin อาจร่วงลงมาถึง 38,000 ดอลลาร์ ก่อนที่ตลาดกระทิงจะเกิดขึ้นในปีนี้
  • KuCoin แพลตฟอร์มเว็บเทรดคริปโตชั้นนำ ได้ประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า บัตรเดบิต Crypto ของ KuCoin จะรองรับผู้ใช้งานจาก Apple Pay แล้ว
  • Henrik Zeberg เทรดเดอร์และนักวิเคราะห์ตลาดชื่อดังได้ออกมาคาดการณ์ว่า ราคา Bitcoin ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะเป็นหนึ่งในขาขึ้นที่สร้างการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจมากที่สุดสำหรับตลาดคริปโตเคอร์เรนซี และถ้าหากว่าการคาดการณ์ของเขาถูกต้อง เราอาจได้เห็นราคาเหรียญพุ่งไปถึง 120,000 ดอลลาร์
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงิน ซึ่งรวมถึงการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษ โดยคณะกรรมการ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ -0.1% และยังคงกำหนดให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นประเภทอายุ 10 ปีเคลื่อนไหวที่ระดับราว 0% นอกจากนี้ BOJ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (YCC) โดยกำหนดเพดานกรอบบนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีที่ระดับ 1.0% 
  • นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับคาดการณ์ว่า โอกาสที่เงินเฟ้อของญี่ปุ่นจะปรับตัวสู่ระดับเป้าหมายของ BOJ ที่ 2% นั้น กำลังเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปเช่นกัน
  • รอยเตอร์ได้สำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ 70 ราย รายงานคาดว่าธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) จะคงอัตราดอกเบี้ย BANK RATE ไว้ที่ 5.25% ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดรอบ 15 ปี ในการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 1 ก.พ. 
  • บรรดาธนาคารรายใหญ่ของรัฐบาลจีนได้เข้าหนุนค่าเงินหยวน โดยคุมเข้มสภาพคล่องในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราในต่างประเทศ และเทขายดอลลาร์ในตลาดภายในประเทศ เนื่องจากตลาดหุ้นปรับตัวลง โดยมีเป้าหมายเพื่อสกัดกั้นไม่ให้เงินหยวนร่วงลงเร็วเกินไป ขณะที่ตลาดหุ้น A shares ของจีนร่วงลง และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตดิ่งลง 2.7% ในวันจันทร์ ซึ่งเป็นการร่วงลงวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2565
  • เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำหนดนโยบายของจีนกำลังประเมินการใช้มาตรการมูลค่า 2 ล้านล้านหยวน (2.78 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อฟื้นฟูตลาดหุ้น โดยเม็ดเงินเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากบัญชีในต่างประเทศของบริษัทรัฐบาลจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกองทุนสร้างเสถียรภาพที่มีเป้าหมายเพื่อเข้าซื้อหุ้นในตลาดหุ้นจีนผ่านทางโครงการ Hong Kong Exchange Link
  • นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่มั่นใจเศรษฐกิจสหรัฐหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยในปีนี้ โดยระบุว่ามีความเป็นไปได้ 50% หรือน้อยกว่านั้นที่สหรัฐจะเผชิญกับภาวะถดถอยในช่วง 12 เดือนข้างหน้า 
  • ฟิทช์ เรทติงส์ระบุว่า สหรัฐหลีกเลี่ยงการชัตดาวน์ได้ แต่ยอดขาดดุลทางการคลังยังอยู่ในระดับสูงต่อไป โดยการเห็นชอบการจัดสรรงบรายจ่ายชั่วคราวอีกครั้งจะหลีกเลี่ยงการชัตดาวน์รัฐบาลบางส่วนได้ แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณถึงการปรับปรุงการจัดทำนโยบายงบประมาณให้ดีขึ้น
  • สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทางการจีนกำลังพิจารณามาตรการเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดหุ้น หลังร่วงหนักที่สุดในรอบ 5 ปี โดยจะหาทางระดมทุนราว 2 ล้านล้านหยวน ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากบัญชีต่างประเทศของบริษัทของรัฐบาลจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกองทุนสร้างเสถียรภาพเพื่อซื้อหุ้นจีนผ่านโครงการเชื่อมโยงกับตลาดหุ้นฮ่องกง
  • บริษัทหลายแห่งเริ่มส่งสัญญาณเตือนถึงผลกระทบจากวิกฤตที่เกิดขึ้นในทะเลแดง ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการขนส่งสินค้ามากมายตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงพลังงาน ทำให้ต้นทุนสินค้าพุ่งสูงขึ้นและเกิดความตึงเครียดในห่วงโซ่อุปทาน
  • กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้ แถลงว่า รัฐบาลได้เริ่มต้นการเจรจารอบแรกกับอังกฤษ เพื่อหารือแนวทางปรับปรุงข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ในระดับทวิภาคี
  • บรรดาธุรกิจในอังกฤษแสดงความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักทางการค้าระลอกใหม่ในยุคหลังเบร็กซิต (Brexit) เนื่องจากผู้ส่งออกในสหภาพยุโรป (EU) ขาดความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงด้านศุลกากรใหม่ของอังกฤษซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนนี้ อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือของอังกฤษอาจไม่ได้เตรียมความพร้อมไว้เช่นกัน
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 7.49 เหรียญ หรือ 0.37% อยู่ที่ระดับ 2,029.16 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 3.60 เหรียญ หรือ 0.18% ปิดที่ 2,025.80 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 16.60 เซนต์ หรือ 0.74% ปิดที่ 22.462 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.50 เหรียญ หรือ 0.28% ปิดที่ 905.50 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 858.93 ตันภาพรวมเดือนมกราคม ขายสุทธิ 20.18 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. – ปัจจุบัน ขายสุทธิ 20.18 ตัน
  • ยูบีเอสออกรายงานคาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะปิดตลาดในปีนี้พุ่งขึ้น 10% จากระดับปัจจุบัน สู่ระดับ 2,250 ดอลลาร์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทั้งนี้ ยูบีเอสคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ค. ซึ่งจะทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง และจะทำให้มีอุปสงค์ใหม่เข้าสู่ตลาดทองคำ โดยเฉพาะจากกองทุน ETF นอกจากนี้รายงานของยูบีเอสยังระบุว่า “ปัจจัยมหภาค และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นปัจจัยหนุนให้มีการถือครองทองคำสำหรับการประกันความเสี่ยง และเพื่อกระจายการลงทุน”
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร หลังจากมีรายงานว่าการผลิตน้ำมันในพื้นที่บางส่วนของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งอุปทานน้ำมันในลิเบียและนอร์เวย์ที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบจากหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐในวันนี้
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 74.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 51 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 79.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ราคาน้ำมันปรับตัวลง หลังจากมีรายงานว่ารัฐนอร์ทดาโคตา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันขนาดใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐ เริ่มกลับมาผลิตน้ำมันได้อีกครั้ง หลังจากทางรัฐได้ปิดสายการผลิตบางส่วนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่หนาวจัด
  • นักวิเคราะห์จากบริษัท Again Capital LLC กล่าวว่า ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐพุ่งขึ้น 7.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 ม.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์น้ำมันเบนซินในสหรัฐอ่อนแอลง
  • นอกจากนี้มีรายงานว่า การผลิตน้ำมันดิบในนอร์เวย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.85 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนธ.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 1.81 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ย. ขณะที่ลิเบียเริ่มกลับมาผลิตน้ำมันจากบ่อชารารา (Sharara) เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากที่ระงับการผลิตเป็นเวลา 2 สัปดาห์อันเนื่องมาจากการผละงานประท้วงของคนงาน
Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม

วิเคราะห์ทองคำประจำวันที่ 24/05/2023

เครื่องมือ Fedwatch tool ของ CME GROUP ชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักถึง 70.8% มีแนวโน้มที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย และให้น้ำหนักเพียง 29.2% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเฟดวันที่ 13-14 มิ.ย.

อ่านเพิ่มเติม