logo

ข่าวเศรษฐกิจรอบโลกประจำวันที่ 8 พฤษภาคม 2567

  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.35 จุด หรือ 0.33% มาอยู่ที่ระดับ 105.42 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 4.461% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง 0.0 % มาอยู่ที่ระดับ 4.83% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.37% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
  • นายนีล แคชแครี ประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิสกล่าวว่า เฟดอาจจำเป็นต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงต่อไปในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงและตลาดที่อยู่อาศัยมีความแข็งแกร่ง
  • ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กล่าวว่า สหภาพยุโรป (EU) พร้อมที่จะใช้เครื่องมือการค้าทั้งหมดที่มีเพื่อปกป้องเศรษฐกิจของ EU หากจีนไม่เปิดโอกาสให้เข้าถึงตลาดจีนอย่างเป็นธรรม
  • ผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนลดลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน สืบเนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) และธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank) จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ปัจจัยสนับสนุนมาจากข้อมูลตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
  • UBS กลายเป็นธนาคารรายใหญ่ในยุโรปแห่งแรกที่ได้รับผลกระทบจากการลดอัตราดอกเบี้ย การลดดอกเบี้ยโดยธนาคารกลาง อาจส่งผลดีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ในขณะเดียวกันก็ส่งผลกระทบต่อรายได้ของธนาคารพาณิชย์
  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ในวันอังคาร ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 โดยตลาดยังคงได้ปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อย่างไรก็ดี การร่วงลงของหุ้นวอลท์ ดิสนีย์ ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ลดช่วงบวกในระหว่างวัน
  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,884.26 จุด เพิ่มขึ้น 31.99 จุด หรือ +0.08%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,187.70 จุด เพิ่มขึ้น 6.96 จุด หรือ +0.13%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,332.56 จุด ลดลง 16.69 จุด หรือ -0.10%
  • อุตสาหกรรมการก่อสร้างในสหราชอาณาจักร ขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ 14 เดือน การเติบโตครั้งสำคัญนี้  เป็นสัญญาณเชิงบวกที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรกำลังฟื้นตัวจากภาวะถดถอยที่ผ่านมา
  • สภาทองคำโลก (WGC) รายงานว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกซึ่งนับรวมถึงการซื้อขายนอกตลาด (OTC) ด้วยนั้น เพิ่มขึ้น 3% สู่ระดับ 1,238 ตันในไตรมาส 1/2567 ซึ่งเป็นไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2559 เนื่องจากการซื้อขายทองคำในตลาด OTC เป็นไปอย่างคึกคัก นอกจากนี้ธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกยังคงเดินหน้าซื้อทองคำเข้าคลังอย่างต่อเนื่อง แม้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
  • อย่างไรก็ดี รายงานยังชี้ให้เห็นว่าความต้องการทองคำแท่งและทองคำเหรียญในตลาด ยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายบุคคลต่อทองคำ  อีกทั้งรายงานยังมีการเน้นย้ำถึงการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของปริมาณสัญญาซื้อขายทองคำในตลาด Shanghai Futures Exchange (SHFE) และ Shanghai Gold Exchange เมื่อกลางเดือนเมษายน  ซึ่งบ่งชี้ถึงศักยภาพของการซื้อขายทองคำในตลาดฟิวเจอร์ที่เพิ่มมากขึ้น
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA)
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.13% ปิดที่ 78.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 17 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 83.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 509,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 พ.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.430 ล้านบาร์เรล
  • นักวิเคราะห์จากบริษัท StoneX เปิดเผยในรายงานล่าสุดว่า สต็อกน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วอยู่ในระดับสูงกว่าการคาดการณ์ 1.1 ล้านบาร์เรล/วัน
  •  นักวิเคราะห์จากบริษัท ActivTrades กล่าวว่า ขณะนี้นักลงทุนเริ่มมองข้ามสถานการณ์ในตะวันออกกลาง และหันไปจดจ่อกับความไม่แน่นอนที่จะมีผลกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์น้ำมัน
Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม