logo

ลงทุนกับเก็งกำไรต่างกันอย่างไร? ทำกำไร ด้วย Technical Analysis

มี 5 มิติด้วยกัน คือ

1.Time Horizon หรือช่วงเวลาการถือสินทรัพย์ นักลงทุนจะถือในระยะเวลายาวๆในเผื่ออนาคตแต่นักเก็งกำไรจะถือในเวลาสั้นๆโดยทั่วไปจะถือน้อยกว่า 1 ปีเพราะไม่มีความพร้อมที่จะถือสินทรัพย์นั้นๆ

2.Level of Risk หรือระดับความเสี่ยง นักลงทุนมักจะใช้ความเสี่ยงกลางแต่นักเก็งกำไรจะใช้ในอัตราที่สูงเพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้ได้มากที่สุดในระยะเวลาอันสั้น

3.Investor Attitude หรือทัศนคติหรือมุมมองที่มีต่อการลงทุน ถ้าเป็นนักลงทุนจะเน้นอนุรักษ์นิยมหรือเน้นความชัวร์ไว้ก่อนแต่ถ้าเป็นนักเก็งกำไรจะเน้นผลกำไรที่ได้ประสิทธิภาพสูงจะมีการเน้น เค้นหรือใช้เทคนิคต่างๆเพื่อให้ได้ผลกำไรสูงสุด

4.Decision Criteria เงื่อนไขการตัดสินใจ นักลงทุนจะมีการตัดใจสินโดยพื้นฐาน มองความจริงและเป็นไปได้ต่างๆแต่นักเก็งกำไรจะอ่านกราฟเทคนิคหรืออ่านจิตวิทยาคนเล่นในตลาดและวิเคราะห์ความเห็นของกูรูเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ

5.Example สินค้าที่นักลงทุนมักลงทุนคือหุ้น กองทุน หรือพันธบัตรที่มีความเป็นเจ้าของ ส่วนนักเก็งกำไรมักลงทุนกับ Option หรือสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงเช่น การแลกเปลี่ยนค่าเงินหรือเหรียญสกุลดิจิตอลต่างๆ

ในการเทรดเราสามารถจัดสรรปันส่วนได้ว่าส่วนไหนคือการลงทุนส่วนไหนเป็นการกินกำไรเราต้องแยกออกมาให้ชัดเจน ถ้าหากเราเทรดในระยะเวลาสั้นๆเราคือ นักเก็งกำไร ถ้าเราเป็นนักเก็งกำไรแต่เราทนใช้เวลานานแบบนักลงทุนโอกาสหมดตัวของเราก็เสี่ยงสูงเนื่องจากการกระจายความเสี่ยงสูงนั่นเอง

อ้างอิง

https://www.youtube.com/watch?v=iI4BeRBcEV4&list=PLxcFCY6f8RaNOWE7xHYzUxiy3PUye6tTE

Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม

วิเคราะห์ทองคำประจำวันที่ 26/01/2024

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลดลง หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อชะลอตัวลงในไตรมาส 4/2566

อ่านเพิ่มเติม

ราคา Bitcoin ร่วงหลุดระดับ 29,000 ดอลลาร์ทำนักเทรดทั่วโลกล้างพอร์ตกว่า 8.6 พันล้านบาท

ราคาของ Bitcoin มีการร่วงอย่างรุนแรงในช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยร่วงลงมากกว่า 4.8% ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงและทำ New low ใหม่รายสัปดาห์ ส่งผลให้นักเทรด Futures สูญเงินไปมากกว่า 250 ล้านดอลลาร์ภายในระยะเวลาอันสั้น

อ่านเพิ่มเติม

วิเคราะห์ทองคำประจำวันที่ 15/09/2023

เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 93% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25 – 5.50% และให้น้ำหนักเพียง 7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50 – 5.75% ในการประชุมวันที่ 19 – 20 ก.ย. และนักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 61% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน พ.ย.

อ่านเพิ่มเติม